ทำไมถึงสมัครบัตรเครดิตไม่ผ่าน แก้ไขยังไงได้บ้าง มาดูกันว่าเกิดอะไรขึ้น และจะแก้ไขอย่างไร
หลายคนคงเคยผิดหวังเมื่อสมัครบัตรเครดิตแล้วไม่ผ่าน ซึ่งนอกจากจะทำให้รู้สึกหงุดหงิดแล้ว ยังทำให้เราสงสัยว่าตัวเองทำอะไรผิดไป การเข้าใจสาเหตุและหาทางแก้ไขที่ถูกต้องจะช่วยให้เราสามารถสมัครได้สำเร็จในครั้งหน้า

เหตุผลหลักที่ทำให้สมัครบัตรเครดิตไม่ผ่าน
รายได้ไม่เข้าเกณฑ์
ปัญหาอันดับหนึ่งที่เจอบ่อยที่สุดคือเรื่องรายได้ไม่พอ ตามกฎของธนาคารแห่งประเทศไทย ผู้สมัครต้องมีรายได้อย่างน้อย 15,000 บาทต่อเดือน แต่ถ้าเงินเดือนไม่ถึง ยังมีทางออกอยู่ เพราะสามารถรวมรายได้จากแหล่งอื่นๆ เช่น ค่าตำแหน่ง ค่าโทรศัพท์ ค่าเดินทาง หรือรายได้พิเศษได้
หากยังไม่ถึงเกณฑ์ ลองพิจารณาบัตรเครดิตแบบใช้เงินฝากค้ำประกัน ซึ่งต้องมีเงินฝากขั้นต่ำ 15,000 บาท แล้วจะได้วงเงิน 90-100% ของยอดเงินฝาก
ประวัติเครดิตมีปัญหา
ถ้าเคยมีประวัติชำระหนี้ไม่ดี เช่น ค้างชำระ จ่ายล่าช้า หรือเป็นหนี้เสีย ธนาคารจะเห็นข้อมูลนี้จากเครดิตบูโร วิธีแก้คือต้องชำระหนี้เก่าให้หมดก่อน แล้วค่อยๆ สร้างประวัติการชำระเงินใหม่ที่ดี ข้อมูลเครดิตจะอยู่ในระบบ 3 ปีนับจากวันปิดบัญชี
หนี้สินเยอะเกินไป
ธนาคารจะดูอัตราส่วนหนี้สินต่อรายได้ โดยทั่วไปหนี้รวมไม่ควรเกิน 70% ของรายได้ ถ้ามีหนี้บ้าน หนี้รถ หรือบัตรเครดิตอื่นๆ มากเกินไป โอกาสอนุมัติจะลดลง
ไม่มีประวัติการใช้เครดิต
สำหรับคนที่ไม่เคยมีประวัติใช้สินเชื่อหรือบัตรเครดิตมาก่อน ธนาคารจะประเมินความเสี่ยงไม่ได้ กลุ่มนี้รวมถึงนักศึกษาจบใหม่ คนที่ใช้แต่เงินสด หรือคนที่ไม่เคยมีบัญชีธนาคาร
อายุงานน้อยเกินไป
ความมั่นคงในงานเป็นสิ่งสำคัญ ธนาคารมักต้องการให้มีอายุงานอย่างน้อย 6 เดือน บางแห่งอาจยอมรับ 3-4 เดือน ถ้าอายุงานน้อยเกินไป อาจถือว่ารายได้ไม่มั่นคง
เพิ่งถูกปฏิเสธไม่นาน
การสมัครบัตรเครดิตซ้ำๆ ในเวลาสั้นๆ จะส่งสัญญาณไม่ดีให้ธนาคาร ถ้าเพิ่งถูกปฏิเสธภายใน 6 เดือน ควรรอให้ครบกำหนดก่อนสมัครใหม่
เอกสารไม่ครบหรือผิดพลาด
นี่เป็นปัญหาที่แก้ได้ง่ายที่สุด การกรอกข้อมูลผิด มีรอยลบขีดฆ่าเยอะ หรือลายมืออ่านไม่ชัด จะส่งผลต่อการพิจารณา

วิธีแก้ปัญหาแต่ละประเภท
แก้ปัญหารายได้ไม่พอ
- รวมรายได้จากทุกแหล่ง รวมถึงเงินเดือน ค่าตำแหน่ง ค่าโทรศัพท์ และรายได้พิเศษ
- เลือกบัตรเครดิตประกันเงินฝาก ที่ต้องมีเงินฝากขั้นต่ำ 15,000 บาท
- หาหนังสือรับรองรายได้จากนายจ้างเพื่อแสดงความมั่นคง
ปรับปรุงประวัติเครดิต
- ชำระหนี้เก่าให้หมดก่อน หากจ่ายไม่ได้ทั้งหมด ลองเจรจาต่อรองกับเจ้าหนี้
- สร้างประวัติการชำระใหม่โดยจ่ายหนี้ทุกรายการตรงเวลา
- ตรวจสอบรายงานเครดิตประจำปี และแก้ไขข้อมูลที่ผิดพลาด
ลดภาระหนี้สิน
- จ่ายหนี้บางส่วนก่อนสมัครบัตรเครดิต
- คำนวณอัตราส่วนหนี้ต่อรายได้ให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้
- หลีกเลี่ยงการสมัครบัตรหลายใบพร้อมกัน
สร้างประวัติเครดิตใหม่
- เริ่มต้นด้วยบัตรเครดิตประกันเงินฝาก
- ใช้สินเชื่อเล็กๆ และชำระตรงเวลา
- เปิดบัญชีธนาคารและมีการเดินบัญชีสม่ำเสมอ
ทางเลือกอื่นนอกจากบัตรเครดิตปกติ
บัตรเครดิตประกันเงินฝาก
เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่ไม่มีสลิปเงินเดือน มีรายได้ไม่แน่นอน หรือไม่มีประวัติเครดิต ข้อดีคือได้สิทธิประโยชน์เหมือนบัตรปกติ ไม่ต้องใช้สลิปเงินเดือน และเงินฝากยังได้ดอกเบี้ยตามปกติ
แอปผ่อนซื้อ
สำหรับคนที่ต้องการผ่อนชำระแต่ไม่มีบัตรเครดิต มีแอปอย่าง SPayLater, TruePayNext และอื่นๆ ให้เลือกใช้ แอปเหล่านี้ทำหน้าที่เหมือนสถาบันการเงินที่ให้ยืมเงินซื้อของแล้วแบ่งจ่าย
เทคนิคเพิ่มโอกาสอนุมัติ
เตรียมเอกสารให้ครบ
เอกสารหลักที่ต้องมี ได้แก่ สำเนาบัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน สมุดบัญชีธนาคาร และสลิปเงินเดือน 1-3 เดือนล่าสุด สำหรับฟรีแลนซ์ ต้องเตรียมเอกสารเพิ่มเติม เช่น สัญญาจ้างงาน หนังสือรับรองการจดทะเบียน
เลือกธนาคารและบัตรที่เหมาะสม
เลือกธนาคารที่มีบัญชีอยู่แล้วจะเพิ่มโอกาสอนุมัติ เลือกบัตรให้เหมาะกับระดับรายได้ ไม่ควรสมัครหลายใบพร้อมกันหรือสมัครบัตรที่เกณฑ์รายได้สูงเกินไป
สร้างความสัมพันธ์กับธนาคาร
มีบัญชีและเดินบัญชีสม่ำเสมอ มีเงินฝากในจำนวนที่เหมาะสม และใช้บริการต่างๆ ของธนาคาร การแสดงความมั่นคงทางการเงินจะช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดี
กรอกใบสมัครอย่างระมัดระวัง
กรอกข้อมูลให้ครบทุกช่อง ใช้ลายมืออ่านง่าย ไม่มีรอยลบหรือขีดฆ่า ข้อมูลต้องตรงกับเอกสารประกอบและเป็นความจริง
กรณีศึกษาเฉพาะกลุ่ม
คนเงินเดือนต่ำกว่า 15,000 บาท
รวมรายได้จากทุกแหล่งให้ถึงเกณฑ์ หากยังไม่ถึง แนะนำบัตรประกันเงินฝากที่ต้องมีเงินฝากขั้นต่ำ 15,000 บาท
ฟรีแลนซ์และอาชีพอิสระ
เตรียมเอกสารแสดงที่มาของรายได้ให้ครบ เช่น สัญญาจ้าง หนังสือรับรองรายได้ หรือการเดินบัญชีที่มีเงินหมุนเวียนสม่ำเสมอ 20,000 บาทขึ้นไปต่อเดือน
นักศึกษาจบใหม่
รออายุงานครบ 6 เดือนก่อนสมัคร หรือหาหนังสือรับรองจากนายจ้าง เริ่มต้นด้วยบัตรประกันเงินฝากเพื่อสร้างประวัติเครดิต
ข้อผิดพลาดที่ควรหลีกเลี่ยง
สมัครหลายใบพร้อมกัน
การสมัครบัตรหลายใบในเวลาใกล้เคียงกันจะส่งสัญญาณไม่ดี ควรสมัครทีละใบและรอผลก่อนสมัครใบต่อไป
ให้ข้อมูลเท็จ
การโกหกในใบสมัครอาจทำให้ถูกปฏิเสธและขึ้นบัญชีดำ ธนาคารมีวิธีตรวจสอบหลายช่องทาง ควรให้ข้อมูลที่ตรงความจริง
ไม่ตรวจเครดิตบูโรก่อนสมัคร
ควรตรวจสอบรายงานเครดิตเพื่อดูว่ามีข้อมูลผิดพลาดหรือหนี้ค้างหรือไม่ การแก้ไขล่วงหน้าจะเพิ่มโอกาสอนุมัติมาก
แนวทางติดตามและปรับปรุง
ติดตามสถานะการสมัคร
หลังยื่นใบสมัครแล้ว ควรติดตามสถานะสม่ำเสมอ กระบวนการพิจารณาใช้เวลา 7-14 วันทำการ หากไม่ได้รับการติดต่อกลับ ควรโทรสอบถาม
รับฟังเหตุผลการปฏิเสธ
หากถูกปฏิเสธ ควรสอบถามเหตุผลจากธนาคารเพื่อนำไปปรับปรุง ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยในการเตรียมตัวสำหรับครั้งต่อไป
วางแผนระยะยาว
การมีบัตรเครดิตเป็นส่วนหนึ่งของการวางแผนการเงินระยะยาว ควรตั้งเป้าหมายสร้างประวัติเครดิตที่ดีเพื่อการขอสินเชื่อในอนาคต
สรุป
การสมัครบัตรเครดิตไม่ผ่านมีสาเหตุหลากหลาย แต่ส่วนใหญ่แก้ไขได้ สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจสาเหตุ วางแผนปรับปรุง และมีความอดทน
ทางเลือกอื่นๆ เช่น บัตรประกันเงินฝากหรือแอปผ่อนซื้อ ก็เป็นทางออกที่ดีสำหรับคนที่ยังไม่พร้อม ที่สำคัญที่สุดคือการมีวินัยทางการเงิน ชำระหนี้ตรงเวลา และสร้างประวัติเครดิตที่ดีอย่างต่อเนื่อง
การลงทุนเวลาเตรียมตัวและปรับปรุงคุณสมบัติจะช่วยให้การสมัครบัตรเครดิตประสบความสำเร็จ และเป็นประโยชน์ต่อการบริหารการเงินส่วนตัวในระยะยาว