เช็คลิสต์ที่ต้องรู้! 7 คุณสมบัติเด่นที่ทำให้แบงก์อนุมัติบัตรเครดิตคุณง่ายขึ้น

การเงิน | 18 พฤษภาคม 2568
Credit card

สวัสดีเพื่อนๆ ทุกคน! พี่โปรมันนี่เองจ้า วันนี้พี่จะมาเปิดโลกบัตรเครดิตให้ทุกคนแบบเจาะลึกถึงกึ๋น!

หลายคนฝันอยากมีบัตรเครดิตใบสวยๆ ติดกระเป๋าสักใบ แต่พอถึงเวลาสมัครจริงๆ ก็เริ่มกังวล… “เฮ้ย! จะผ่านมั้ยเนี่ย?” “ทำไมเพื่อนสมัครผ่านตลอด แต่เราโดนปฏิเสธซ้ำซาก?” “มีเทคนิคอะไรลับๆ มั้ยนะ?”

จริงๆ แล้ว มันมีเคล็ดลับที่แบงก์ไม่เคยบอกใครตรงๆ หรอกนะ! วันนี้พี่เลยจะมาเผย “เช็คลิสต์ลับ” 7 คุณสมบัติ “เทพ” ที่ทำให้แบงก์ตาลุกวาว อยากกดปุ่ม “อนุมัติ” ให้คุณทันที! รับรองว่าอ่านจบ เตรียมตัวตาม โอกาสผ่านฉลุยสูงมากกกก!

เอาล่ะ มาดูกันเลยว่าคุณสมบัติเทพๆ ที่ว่านี้มีอะไรบ้าง!

“7 คุณสมบัติ ‘เทพ’ ปั้นให้ปัง! แบงก์ไหนก็อยากอนุมัติ”

1. บูโรสวยใสไร้ที่ติ: แต้มต่อยืนหนึ่งเรื่องการเงิน

มันคืออะไร? เครดิตบูโร หรือ National Credit Bureau (NCB) คือประวัติการเงินของคุณที่ถูกบันทึกไว้ในฐานข้อมูลกลาง เปรียบเสมือน “สมุดพกการเงิน” ที่บอกว่าคุณเป็นคนจ่ายตรงเวลาหรือเปล่า มีหนี้ค้างชำระไหม เคยผิดนัดบ่อยมั้ย?

แบงก์มองยังไง? แบงก์จะดูประวัติย้อนหลังอย่างน้อย 2-3 ปี ถ้าคุณมีประวัติการชำระเงินตรงเวลา ไม่มีหนี้ค้าง ไม่เคยผิดนัด แบงก์จะให้คะแนนคุณสูงมาก! ถือเป็นปัจจัยอันดับต้นๆ เลยล่ะ

เคล็ดลับจากพี่โปรมันนี่: “คนส่วนใหญ่กลัวบูโรเหมือนผี แต่จริงๆ มันคือกระจกสะท้อนวินัยทางการเงินของเราเองนะ! สิ่งที่แบงก์ชอบมากๆ คือคนที่มีประวัติการผ่อนชำระอะไรสักอย่างมาแล้ว และจ่ายตรงเวลาทุกงวด ดีกว่าคนที่ไม่เคยมีประวัติอะไรเลย (เพราะไม่มีข้อมูลให้ประเมิน)

ถ้าเคยมีบูโรติดลบ อย่าเพิ่งท้อ! ลองทำแผนชำระหนี้เก่าให้หมด แล้วรอให้ประวัติดีขึ้นสัก 12 เดือน ก่อนสมัครบัตรใหม่ ที่สำคัญ ก่อนสมัครบัตรเครดิต ขอตรวจบูโรตัวเองก่อนเลย! จะได้รู้ว่าตัวเองมีคะแนนเท่าไหร่ มีอะไรต้องแก้ไขมั้ย (ค่าธรรมเนียมแค่ 100-200 บาท แต่คุ้มมากกก)”

2. รายได้มั่นคง…สม่ำเสมอเห็นแล้วอุ่นใจ

มันคืออะไร? รายได้ที่เพียงพอและสม่ำเสมอ คือหัวใจสำคัญที่แบงก์ต้องการเห็น เพราะนี่คือหลักประกันว่าคุณจะมีเงินมาจ่ายบัตรเครดิตในอนาคต

แบงก์มองยังไง? แบงก์มักกำหนดเกณฑ์รายได้ขั้นต่ำไว้ (ส่วนใหญ่ 15,000-30,000 บาทต่อเดือน ขึ้นอยู่กับประเภทบัตร) แต่นอกจากตัวเลขแล้ว พวกเขายังดูความสม่ำเสมอของรายได้ด้วย! สลิปเงินเดือน statement บัญชีย้อนหลัง 3-6 เดือน จะถูกตรวจสอบอย่างละเอียด

เคล็ดลับจากพี่โปรมันนี่: “ไม่ใช่แค่ตัวเลขเยอะๆ นะ แต่ความสม่ำเสมอของเงินเข้าบัญชีนี่แหละ ที่ทำให้แบงก์ยิ้มได้! พี่เคยเห็นคนรายได้ 25,000 แต่เงินเข้าตรงเวลาทุกเดือน ผ่านง่ายกว่าคนรายได้ 40,000 แต่เดือนนึงเงินเข้าวันที่ 1 อีกเดือนเข้าวันที่ 15 บางเดือนก็ไม่มีเลย

เทคนิคเด็ด! ถ้าคุณมีรายได้พิเศษนอกเหนือจากเงินเดือน เช่น ค่าคอมมิชชั่น โบนัส หรือรายได้จากฟรีแลนซ์ ให้นำเข้าบัญชีเดียวกับเงินเดือนหลัก และเก็บหลักฐานการโอนเงินไว้ให้ดี เพราะนี่คือตัวช่วยให้ภาพรวมรายได้ของคุณดูดีขึ้นมาก!”

3. ภาระหนี้ไม่ท่วมจอ…แบงก์ก็ไม่อยากปวดหัว

มันคืออะไร? Debt-to-Income Ratio (DTI) หรืออัตราส่วนหนี้ต่อรายได้ คือตัวชี้วัดว่าคุณมีภาระหนี้มากแค่ไหนเมื่อเทียบกับรายได้ ยิ่งต่ำยิ่งดี!

แบงก์มองยังไง? แบงก์จะดูว่าคุณมีภาระหนี้ที่ต้องผ่อนทุกเดือนรวมกันแล้วไม่เกิน 30-50% ของรายได้ (ขึ้นอยู่กับนโยบายแต่ละแบงก์) ถ้าเกินกว่านี้ โอกาสถูกปฏิเสธสูงมาก เพราะแบงก์กลัวว่าคุณจะแบกรับภาระเพิ่มไม่ไหว

เคล็ดลับจากพี่โปรมันนี่: “ลองคิดดูง่ายๆ ถ้าเรามีหนี้เยอะอยู่แล้ว แบงก์ก็ต้องคิดหนักว่าจะให้เพิ่มอีกดีไหม? ก่อนสมัครบัตร ลองคำนวณง่ายๆ เอารายจ่ายที่เป็นหนี้ทั้งหมดต่อเดือน (ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ บัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล) หารด้วยรายได้ต่อเดือน คูณ 100 ถ้าได้เกิน 40% ให้รีบจัดการลดหนี้ก่อนสมัครบัตรใหม่

เคล็ดลับสุดเทพ! ถ้ามีหนี้บัตรเครดิตเก่าที่ใช้วงเงินเยอะ ให้รีบจ่ายลดลงก่อนสมัครบัตรใหม่ อย่างน้อย 1-2 เดือน เพราะแบงก์จะเห็นว่าคุณมีวินัยการเงินดี และมีความสามารถในการชำระหนี้ ไม่ใช่แค่ใช้วงเงินเต็มตลอด!”

4. หน้าที่การงานชัดเจน…อนาคตการเงินดูสดใส

มันคืออะไร? ความมั่นคงในอาชีพการงาน ทั้งประเภทของงาน บริษัทที่ทำงาน และอายุงาน เป็นปัจจัยสำคัญที่แบงก์ใช้คาดการณ์รายได้ในอนาคตของคุณ

แบงก์มองยังไง? แบงก์ชอบคนที่ทำงานประจำในบริษัทที่มีชื่อเสียง มีอายุงานยาวนาน (อย่างน้อย 6 เดือน – 1 ปีขึ้นไป) และอยู่ในอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มเติบโต อาชีพอิสระหรือเจ้าของกิจการก็ผ่านได้ แต่ต้องมีหลักฐานรายได้ที่ชัดเจนและต่อเนื่อง

เคล็ดลับจากพี่โปรมันนี่: “พนักงานประจำบริษัทมั่นคง หรือฟรีแลนซ์ที่มีหลักฐานรายได้ชัดเจนต่อเนื่อง ก็มีแต้มต่อนะจ๊ะ! แต่ที่หลายคนไม่รู้คือ แบงก์มีการจัด ‘เรตติ้ง’ ให้กับบริษัทและอาชีพด้วย บางอาชีพเช่น แพทย์ วิศวกร ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ หรือพนักงานบริษัทขนาดใหญ่ จะได้คะแนนสูงกว่าอาชีพอื่นๆ

ถ้าคุณเพิ่งเปลี่ยนงานใหม่ แนะนำให้รออย่างน้อย 3-6 เดือน ค่อยสมัครบัตร และถ้าเป็นฟรีแลนซ์หรือเจ้าของกิจการ ให้เตรียมเอกสารการเงินย้อนหลังอย่างน้อย 6 เดือน – 1 ปี เพื่อแสดงความต่อเนื่องของรายได้ ยิ่งมีสัญญาว่าจ้างระยะยาวด้วยยิ่งดี!”

5. อายุถึงเกณฑ์…คุณสมบัติพร้อมลุย

มันคืออะไร? เกณฑ์อายุขั้นต่ำและคุณสมบัติพื้นฐานที่แต่ละธนาคารกำหนดไว้สำหรับผู้สมัครบัตรเครดิต

แบงก์มองยังไง? โดยทั่วไป ผู้สมัครต้องมีอายุอย่างน้อย 20-21 ปีขึ้นไป (บางธนาคารอาจกำหนด 18 ปี สำหรับบัตรบางประเภท) และไม่เกิน 60-65 ปี นอกจากนี้ยังต้องมีสัญชาติไทยหรือมีใบอนุญาตทำงานในไทย (กรณีชาวต่างชาติ)

เคล็ดลับจากพี่โปรมันนี่: “แต่ละธนาคารอาจมีเกณฑ์อายุนิดๆ หน่อยๆ ที่ต่างกัน ลองเช็กดูก่อนสมัครนะ! สำหรับน้องๆ ที่อายุยังไม่ถึง แต่อยากมีบัตรเครดิต ลองดูบัตรเสริมจากพ่อแม่หรือญาติผู้ใหญ่ก่อนก็ได้ จะได้เริ่มสร้างประวัติการใช้บัตรที่ดี

สำหรับผู้สูงวัย (55 ปีขึ้นไป) ที่ใกล้เกษียณ แต่อยากมีบัตรเครดิต ให้เน้นแสดงหลักฐานความมั่นคงทางการเงินอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น บัญชีเงินฝาก เงินลงทุน หรือทรัพย์สินอื่นๆ เพื่อให้แบงก์มั่นใจว่าคุณมีความสามารถในการชำระหนี้แม้จะเกษียณแล้ว”

6. เอกสารครบเครื่อง…ข้อมูลจริงใจไม่มีเม้ม

มันคืออะไร? การเตรียมเอกสารให้ครบถ้วน ถูกต้อง และตรงตามความเป็นจริง เป็นสิ่งที่แสดงถึงความจริงจังและความรับผิดชอบของผู้สมัคร

แบงก์มองยังไง? แบงก์จะตรวจสอบเอกสารทุกอย่างอย่างละเอียด ตั้งแต่บัตรประชาชน สลิปเงินเดือน statement บัญชีธนาคาร หนังสือรับรองการทำงาน ฯลฯ ข้อมูลที่ไม่ตรงกันหรือมีร่องรอยการแก้ไข จะทำให้ความน่าเชื่อถือลดลงทันที

เคล็ดลับจากพี่โปรมันนี่: “เตรียมเอกสารให้เป๊ะเหมือนบรีฟงานลูกค้าคนสำคัญนั่นแหละ! ข้อมูลจริงเท่านั้นนะ อย่าหาทำ! พี่เคยเห็นหลายเคสที่พยายามแต่งตัวเลขในสลิปเงินเดือนหรือ statement แล้วโดนจับได้ นอกจากจะถูกปฏิเสธแล้ว ยังถูกขึ้นแบล็คลิสต์อีกต่างหาก!

เคล็ดลับเด็ด! ก่อนยื่นเอกสาร ให้ตรวจสอบว่าข้อมูลในทุกเอกสารตรงกันหมด เช่น ชื่อบริษัท ตำแหน่งงาน เบอร์โทรศัพท์ ที่อยู่ ฯลฯ เพราะถ้ามีข้อมูลขัดแย้งกัน แบงก์จะสงสัยและอาจปฏิเสธคำขอได้ ยิ่งถ้าเป็นเอกสารดิจิทัล (เช่น PDF หรือไฟล์ภาพ) ให้ส่งไฟล์ที่คมชัด อ่านง่าย ไม่มีรอยแก้ไข จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือได้มาก!”

7. ประวัติการเงินโดยรวมดี…มีแต้มต่อ

มันคืออะไร? พฤติกรรมทางการเงินโดยรวมของคุณ ทั้งการออม การลงทุน การใช้บริการทางการเงินอื่นๆ ที่แสดงถึงความรับผิดชอบและวินัยทางการเงิน

แบงก์มองยังไง? แบงก์จะประเมินจากประวัติการทำธุรกรรมทางการเงินต่างๆ เช่น การมีบัญชีเงินฝากที่มียอดคงเหลือสม่ำเสมอ การมีเงินออม การลงทุน หรือการใช้บริการอื่นๆ ของธนาคาร ซึ่งแสดงให้เห็นว่าคุณเป็นลูกค้าที่มีคุณภาพ

เคล็ดลับจากพี่โปรมันนี่: “ถ้าเคยมีบัญชีเงินฝาก หรือใช้บริการอื่นๆ ของแบงก์นั้นๆ มาบ้าง แล้วประวัติดี แบงก์ก็อาจจะมองเราเป็นลูกค้าที่น่าคบหามากขึ้นไงล่ะ! ความลับที่หลายคนไม่รู้คือ แบงก์มักให้ความสำคัญกับลูกค้าเก่าที่มีประวัติดีมากกว่าลูกค้าใหม่ที่ไม่เคยใช้บริการมาก่อน

เทคนิคเด็ด! ถ้าอยากสมัครบัตรเครดิตกับแบงก์ไหน ลองเปิดบัญชีออมทรัพย์หรือฝากประจำกับแบงก์นั้นก่อนสัก 3-6 เดือน แล้วรักษายอดเงินให้สม่ำเสมอ (ไม่จำเป็นต้องเยอะ แค่ไม่ให้บัญชีแห้ง) หรือถ้ามีเงินก้อน ลองซื้อกองทุนหรือประกันผ่านแบงก์นั้น จะช่วยเพิ่มโอกาสอนุมัติได้มาก เพราะแบงก์จะเห็นว่าคุณเป็นลูกค้าที่มีศักยภาพและมีความสัมพันธ์ที่ดีกับธนาคาร”

“เตรียมตัวให้พร้อม…บัตรเครดิตในฝันอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม!”

เป็นไงกันบ้างครับ กับ 7 คุณสมบัติ “เทพ” ที่แบงก์มองหาก่อนจะกดปุ่มอนุมัติบัตรเครดิตให้คุณ? สรุปง่ายๆ อีกทีนะ:

  1. บูโรสวยใสไร้ที่ติ – รักษาประวัติการชำระเงินให้ดี ไม่ผิดนัด ไม่ค้างชำระ
  2. รายได้มั่นคงสม่ำเสมอ – มีรายได้ถึงเกณฑ์และเข้าบัญชีสม่ำเสมอ
  3. ภาระหนี้ไม่ท่วมจอ – ควบคุม DTI ให้ต่ำกว่า 40-50%
  4. หน้าที่การงานชัดเจน – มีอาชีพมั่นคง อายุงานเพียงพอ
  5. อายุถึงเกณฑ์ – อายุตรงตามเงื่อนไขของแต่ละธนาคาร
  6. เอกสารครบเครื่อง – เตรียมเอกสารให้ครบถ้วน ถูกต้อง ไม่มีการแก้ไข
  7. ประวัติการเงินโดยรวมดี – มีความสัมพันธ์ที่ดีกับธนาคาร มีเงินออมหรือการลงทุน

พี่โปรมันนี่อยากบอกว่า ทุกคนสามารถสร้างคุณสมบัติ “เทพ” เหล่านี้ได้! อาจจะไม่ได้ทันทีทันใด แต่ค่อยๆ สร้างวินัยทางการเงินที่ดี รักษาประวัติการชำระเงินให้ตรงเวลา ควบคุมหนี้สินให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม และเริ่มสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับธนาคาร

ลองเช็คตัวเองดูว่ามีคุณสมบัติครบทั้ง 7 ข้อหรือยัง ถ้ายังไม่ครบ ก็เริ่มปรับปรุงตั้งแต่วันนี้! แล้วเมื่อพร้อมแล้ว ค่อยยื่นใบสมัคร รับรองว่าโอกาสผ่านสูงแน่นอน!

สุดท้ายนี้ พี่โปรมันนี่ขอให้ทุกคนโชคดีกับการสมัครบัตรเครดิต! อย่าลืมใช้บัตรอย่างฉลาด จ่ายเต็มจำนวนทุกเดือน และใช้สิทธิประโยชน์ให้คุ้มค่าที่สุดนะครับ! มีคำถามอะไรเพิ่มเติม ทักมาหาพี่ได้เสมอจ้า!

#พี่โปรมันนี่ #เทคนิคสมัครบัตรเครดิตผ่านฉลุย #เงินทองต้องวางแผน